Walk Run Bike 8 (สนาม พิษณุโลก)

หลักการและเหตุผล

ในประเทศไทย พบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 1,880 คน ต่อประชากรจำนวนหนึ่งแสนคน หรือร้อยละ 2 ซึ่งถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในเพศหญิงและอันดับสามในเพศชาย รองจากอุบัติเหตุและโรคมะเร็ง นอกจากนั้น โรคนี้ยังมีอัตราความพิการสูง การศึกษาในประเทศไทยพบว่าในผู้ป่วย 100 คน ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจะเสียชีวิตร้อยละ 5 และพิการร้อยละ 70 ซึ่งนอกจากความพิการทางกายแล้ว ยังมีผลทำให้ความจำเสื่อมในภายหลังอีกด้วย โดยร้อยละ 80 ของภาวะดังกล่าวจะเกิดในประเทศกำลังพัฒนาและด้อยพัฒนา ดังนั้น จะเห็นว่าโรคหลอดเลือดสมองเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ประเทศกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะพบโรคนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าประชาชนขาดความรู้ด้านการป้องกันหรือรักษาอย่างถูกวิธี

ในการนี้ ศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้จัดกิจกรรมเชิงรุกสู่ชุมชน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงอาการและแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดอาการและการป้องกันโรค ในชื่อโครงการ “แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ” ซึ่งเป็นการรวมพลังของเขตสุขภาพ 13 เขต และภาคีเครือข่าย ร่วมกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ การให้ความรู้เรื่องโรคหลอดเลือดสมอง และการออกกำลังกายเพื่อไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือ “แผ่นดินไทย ไร้สโตรค”

วัตถุประสงค์

เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงเป็น ดั่งแสงนำใจของประชาชนไทย และทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทยในการรักษาสุขภาพ และการออกกำลังกาย ทรงมีพระเมตตาแผ่ไพศาลแก่พสกนิกรชาวไทยอย่างไม่เลือกชั้นวรรณะ และเชื้อชาติ พระราชทาน รถต้นแบบรักษาอัมพาตเคลื่อนที่สำหรับนำไปใช้ประโยชน์ และเป็นรากฐานในการให้บริการไปทั่วประเทศดังประจักษ์ชัด

เพื่อให้ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศตระหนักถึงความสาคัญของการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ด้วยการดำเนินงานเชิงรุกในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมให้มีกิจกรรมป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายการรักษาและลดภาระของปัญหาโรคเรื้อรัง โดยให้ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย และทุกหมู่เหล่า มีโอกาสออกกำลังกายอย่างง่าย ๆ เช่น การเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน ซึ่งถ้าทำเป็นประจำจะทำให้มีสุขภาพดีห่างไกลโรค

กิจกรรมมุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมเป็นตัวอย่างที่ดีในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัด DMHTT [Distancing (อยู่ห่างไว้) Mask wearing (ใส่มาส์กกัน) Hand washing (หมั่นล้างมือ) Testing (ตรวจให้ไว) ThaiChana (ใช้ไทยชนะ และหมอชนะ) ] และให้ความร่วมมือปฏิบัติตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)

 

ถ้วยพระราชทาน รางวัลสนับสนุนจากภาครัฐ และของที่ระลึก

1. ถ้วยรางวัลพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ชนะเลิศ” ด้านจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ และกิจกรรมออกกำลังกายเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต

2. ถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี “ชนะเลิศ” ด้านการจัดกิจกรรม เฉลิมพระเกียรติ และกิจกรรมให้ความรู้โรคโรคหลอดเลือดสมอง

3. โล่รางวัลเกียรติยศ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จานวน 3 รางวัล คือ รางวัลชนะเลิศ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 และรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2

4. โล่รางวัลเกียรติยศ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 5 รางวัล คือ รางวัลชนะเลิศ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 รางวัลชมเชย อันดับ 1 และรางวัลชมเชย อันดับ 2

5. โล่รางวัลเกียรติยศ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวน 22 รางวัล คือ

• เมืองกีฬา 16 จังหวัด จำนวน 6 รางวัล
• จังหวัดอื่น ๆ 61 จังหวัด จำนวน 10 รางวัล
• Over All ชาย และ Over All หญิง จำนวน 6 รางวัล

6. บุคคลทั่วไปที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรม: เสื้อกีฬา และเหรียญที่ระลึก

 

เสื้อที่ระลึก

 

เหรียญที่ระลึก

เหรียญที่ระลึกจะมอบให้ผู้ที่ เดิน-วิ่ง-ปั่น เข้าเส้นชัยตามเวลาที่กำหนด

 

วันวิ่งและเส้นทางกิจกรรม

วันวิ่ง อาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2565
จุดปล่อยตัว: ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก
วัน เวลา  : วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2565 ปล่อยตัว 05.30 น

 

ประเภทกิจกรรม 

เดินเพื่อสุขภาพ ระยะทางประมาณ 6 กม

วิ่งเพื่อสุขภาพ ระยะทางประมาณ 6 กม

ปั่น ระยะทางประมาณ 29 กม

 

เส้นทางการ เดิน วิ่ง  

จุดเริ่มต้น ปล่อยตัวนักกีฬาเดิน-วิ่ง ออกจากศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ผ่านหน้าศาลจังหวัดพิษณุโลก ข้ามสะพานเอกาทศรถเลี้ยวซ้ายผ่านสวนชมน่าน ผ่านวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ข้ามสะพานวังจันทน์ วนศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไปสิ้นสุดศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก

เส้นทางการ ปั่น   :    จุดเริ่มต้นศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก และสิ้นสุดที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก

รูปเส้นทางปั่น

 

 

 

กำหนดการ จังหวัดพิษณุโลก

กิจกรรม “แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ”

วันอาทิตย์ที่  30 ตุลาคม 2565

เวลา 04.00 น.       ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเข้าสู่บริเวณงาน ตั้งขบวน เดิน วิ่ง ปั่น

เวลา 04.30 น.       ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทยอยเข้าจุดสตาร์ทเพื่อเตรียมตัว

เวลา 04.40 น.       พิธีกรขึ้นเวทีกล่าวต้อนรับผู้มาร่วมกิจกรรมทุกท่าน พร้อมชี้แจงรายละเอียดกิจกรรม

เวลา 04.45 น.        พิธีกรแนะนำเส้นทางในแต่ละประเภท รวมถึงจุดให้บริการ

เวลา 05.00 น.        พิธีกรเชิญตัวแทนกล่าวรายงานการจัดกิจกรรม แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ

เวลา 05.10 น.       พิธีกรเชิญประธานขึ้นบนเวทีเปิดการจัดกิจกรรม แสงนำใจ ไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกัน

อัมพาต ครั้งที่ 8 / เฉลิมพระเกียรติ

 

พิธีเฉลิมพระเกียรติ        

ประธานในพิธีขึ้นบนเวที

ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (คำนับ)

เปิดกรวยถวายราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และกล่าวคำถวายราชสดุดี

ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์  (คำนับ) 

ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี โดยพร้อมเพรียงกัน (หันหน้าไปทางพระบรมฉายาลักษณ์ )

เวลา 05.20 น.       ประธานและแขกผู้มีเกียรติถ่ายภาพ ณ แถวการจัดกิจกรรม

เวลา 05.30 น.       พิธีกร ปล่อยตัวผู้เข้าร่วมกิจกรรม เดิน วิ่ง เพื่อสุขภาพ 

เวลา 07.00 น.       ปล่อยตัวผู้เข้าร่วมกิจกรรมปั่น เพื่อสุขภาพ 

เวลา 07.30-12.00 น.  ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกประเภท ทุกกลุ่ม เริ่มเข้าสู่เส้นชัย พร้อมรับเหรียญที่ระลึก

 

 

ช่องทางการรับชุดแข่งขัน

• รับด้วยตนเอง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก วันที่  21 – 25 ตุลาคม 2565 เวลา 08.30 – 16.30 น.
• รับ(เสื้อและเบอร์บิบ)ทางไปรษณีย์  ค่าจัดส่ง 60 บาท / ซอง

 

ค่าสมัครและช่องทางการชำระเงิน

• ค่าสมัคร 300 บาท
• ค่าธรรมเนียมธนาคารการชำระออนไลน์ ขึ้นอยู่กับช่องทางการสมัคร (รายละเอียดระบุก่อนชำระเงิน)

 

กติกาการร่วมกิจกรรม 

ใช้กฎกติกาสากล และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (ศบค.) ดังนี้

1. นักกีฬาทุกคนต้องได้รับวัคซีนครบอย่างน้อย 2 เข็ม โดยโดยแสดงหลักฐานผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม ที่จุดคัดกรอง

2. แสดงผลตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ซึ่งตรวจภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนเข้างาน โดยแสดงหลักฐานผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อมหรือแสดงหลักฐานยืนยันผลการตรวจที่เป็นลบ ที่จุดคัดกรอง ทั้งนี้แนะนาให้นักกีฬาทาการตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ด้วยตนเองล่วงหน้าก่อนมายังพื้นที่แข่งขัน และนาผลการตรวจมาแสดงยังจุดคัดกรอง

3. ในพื้นที่จัดงานมีจุดให้บริการตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ด้วยตนเองโดยคาแนะนาของเจ้าหน้าที่ คิดค่าบริการชุดตรวจ 80 บาท (มีจำนวนจากัด) เฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่มีผลตรวจมาแสดง แนะนำให้นักกีฬาตรวจด้วยตนเองจากที่บ้าน

4. ลงทะเบียนกิจกรรมใน “ไทยชนะ” เพื่อรองรับการ Check In – Out ของผู้เข้าร่วมกิจกรรม

5. ทำการขออนุญาตหน่วยงานท้องถิ่นในการจัดงาน เพื่อพิจารณาโครงการและ ติดตามผลการจัดกิจกรรม

6. จำนวนผู้เข้าร่วมและกรรมการ ควรเหมาะสมกับพื้นที่จัดการแข่งขัน คำนวณการใช้พื้นที่อย่างน้อย 1 คน ต่อ 5 ตารางเมตร

7. มีเจลล้างมือแอลกอฮอล์ หรือน้ายาฆ่าเชื้อ ภายในบริเวณงาน และเต็นท์ต่าง ๆ

8. จัดเตรียมที่เฉพาะสำหรับแยกบุคคลที่ป่วย หรือสงสัยว่าจะป่วย

9. กำหนดแผนการทำงาน วิธีการเคลื่อนย้าย สถานพยาบาลที่รองรับกรณีพบผู้ป่วย หรือผู้มีอาการเสี่ยง

10. มีจุดคัดกรองหน้าทางเข้างานที่ชัดเจน และมีพนักงานรับผิดชอบทำหน้าที่คัดกรองผู้เข้าร่วมกิจกรรมตลอดเวลา

11. มีจุดบริการแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาทาความสะอาด สำหรับฉีดทาความสะอาดมือและอุปกรณ์ กระจายอยู่ทั่วงาน

12. มีการแจกหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าสำหรับผู้จัด เจ้าหน้าที่ และผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ไม่ได้สวมมาในงาน

13. จัดพื้นที่เว้นระยะห่างกันของผู้ใช้บริการ 1-2 เมตร ที่ชัดเจนทั้งจุดตรวจสอบและจุดปล่อยตัว รวมถึงบริเวณที่มีการต่อคิว เช่น ต่อแถวกันเข้าห้องน้า ต่อคิวเพื่อตรวจคัดกรอง

14. จัดทำสัญลักษณ์สาหรับผู้ที่ผ่านการตรวจคัดกรองแล้ว

15. เข้มงวดเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าของผู้เข้าร่วมงานทุกคน

16. แยกจุดบริการน้ำดื่มระหว่างเส้นทางวิ่ง

17. อาสาสมัครสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และถุงมือตลอดการแข่งขัน (ถุงมือสำหรับเจ้าหน้าที่หน่วยบริการ)

18. ปล่อยตัวผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นสาย โดยกำหนดกลุ่มปล่อยตัวเป็นสาย วางสลับกันเป็นรูปฟันปลา

19. แบบปล่อยตัวเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละไม่เกินจำนวนที่แต่ละจังหวัดมีประกาศควบคุม

20. ให้มีการทำความสะอาดจุดที่มีการสัมผัสบ่อย เช่น ลูกบิดประตูเข้า - ออก ประตูห้องสุขา

21. จัดถังขยะ กระจายอยู่หลาย ๆ แห่ง และจัดให้มีผู้ดูแลเก็บขยะอยู่ตลอดเวลา

22. ทำความสะอาดอุปกรณ์ภายในบูธ จุดที่มีการสัมผัสบ่อยทุก 30 นาที